วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การพัฒนาทักษะ สู่ความสำเร็จ


ในการที่จะเล่นกีฬาให้ชำนาญจนมีความสามารถเป็นที่ยอมรับกัน และจนถึงขนาดชนะได้รางวัลนั้น นอกจากผู้เล่นจะต้องมีทักษะพื้นฐานที่ดีแล้ว ยังต้องฝึกฝนตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมออีกด้วย จะเห็นว่าผู้ประสบความสำเร็จและเป็นผู้ชนะมักจะมีสไตล์ในการเล่นที่แตกต่างกัน ไม่มีสไตล์ไหนที่ชนะตลอดหรือแพ้ตลอด
ในการลงทุนก็เช่นเดียวกัน เราจะต้องพยายามหาสไตล์การเล่นที่เหมาะกับตัวเราและมีความเชื่อมั่นว่าจะทำให้เราชนะในเกมการลงทุน และค่อยๆ พัฒนาจนมีสไตล์ของตนเอง ที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร ใครจะรู้ สไตล์การลงทุนของตัวคุณเองอาจจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในอนาคตก็ได้ นักลงทุนระดับ “ปรมาจารย์” ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีคุณสมบัติที่เหมือนๆ กันอยู่ 8 ประการด้วยกัน คือ


1. มีความรอบรู้ (Breadth)
จากการศึกษาพบว่าผู้ประสบความสำเร็จในการลงทุนมักมีความกระตือรือร้น
สนใจเรื่องราวต่างๆ รอบตัว นอกจากข้อมูลซึ่งเกี่ยวข้องกับการลงทุนโดยตรงแล้ว
พวกเขายังให้ความสนใจกับสิ่งอื่นๆด้วย เช่น George Soros
มีความสนใจเรื่องปรัชญาและได้เข้าไปทำกิจกรรมหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเมืองระดับโลกด้วย
นักลงทุนที่ดีต้องเป็นผู้ที่มีความสนใจที่หลากหลาย
ไม่ตีกรอบตัวเองอยู่เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้น โดยเฉพาะในโลกทุกวันนี้
ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันสูงมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีกโลกหนึ่ง
อาจส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ อย่างกว้างขวาง แม้แต่ประเทศที่อยู่ในอีกซีกโลกหนึ่ง
ก็อาจได้รับผลกระทบอย่างมากและรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง เช่น กรณีวิกฤต “ต้มยำกุ้ง”
ที่เกิดกับประเทศไทยปี 2540 นั้นได้ส่งผลสะเทือนต่อระบบการเงินไปทั่วโลก
เป็นต้น

2. ช่างสังเกต (Observation)

นักลงทุนที่ดีควรจะสวมวิญญาณนักสืบ เป็นคนที่ช่างสังเกต
ใส่ใจในรายละเอียด รวมทั้งต้องจดจำข้อมูลที่สำคัญๆ ของหุ้นต่างๆ ได้
ยิ่งคุณจำรายละเอียดได้มากเท่าใด คุณจะยิ่งมีความสามารถในการวิเคราะห์ แยกแยะ
รวมทั้งประเมินผลกระทบภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วกว่าคนอื่น กล่าวกันว่า
Warren Buffet นั้น เป็นคนช่างสังเกตและสามารถในการจดจำรายละเอียดของข้อมูลต่างๆ
ของบริษัทที่เขาไปลงทุนได้มากมายอย่างน่าทึ่ง ราวกับว่าตัวเขาเป็นเหมือน
“สารานุกรมเคลื่อนที่” ทีเดียว

3 .ไม่มีอคติ (Objectivity)

นักจิตวิทยาได้ชี้ให้เห็นว่ามนุษย์นั้นเป็น
“สัตว์สังคม” เมื่อได้มารวมกลุ่มกันเข้าแล้ว
เพื่อจะไม่ให้เกิดปัญหาทางสังคมกับผู้อื่น
จึงมีความโน้มเอียงที่จะตัดสินใจทำเรื่องต่างๆ
ในลักษณะที่คล้อยตามกระแสที่คนส่วนใหญ่นิยมทำกัน ทำให้เกิดเป็นพฤติกรรม
“สัญชาติญาณฝูงสัตว์” (herd instinct) เหมือนกับสัตว์ต่างๆ ที่มักจะคล้อยตามจ่าฝูง
นักลงทุนที่จะประสบความสำเร็จจะต้องมีความคิดที่เป็นอิสระ
และไม่ยอมให้ความคิดของตัวเองถูกครอบงำโดยกระแสของคนส่วนใหญ่
เพราะว่าความผิดพลาดเหล่านี้ มักจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนกลายเป็นพฤติกรรมที่สามารถคาดคะเนได้ล่วงหน้า

4. รักษาวินัย (Discipline)
นักลงทุนจะต้องมีความอดทนในการรอคอย เพราะโอกาสดีๆ
หรือความคิดดีๆ สำหรับการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ นั้นไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน เช่น
Warren Buffet นั้น ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีวินัยในการลงทุนสูงมาก
เขาเคยบอกว่าเคล็ดไม่ลับของความสำเร็จในการลงทุนของเขาก็คือต้องรู้จักอดทนอดกลั้น
รอคอยโอกาส ไม่ตัดสินใจตามกระแส และเมื่อโอกาสนั้นมาถึงต้อง “หวดให้สุดแรง”
(ภาษานักเบสบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่คนอเมริกันชอบมาก) เพราะโอกาสดีๆ
ที่จะผ่านเข้ามาในชีวิตของคนเรานั้น มีไม่บ่อยครั้งนัก

5. มีความลึก (Depth)
โดยปกติ “ความลึก” จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนเรามีสมาธิ
ซึ่งจะทำให้เราสามารถเพ่งความคิดให้แน่วแน่อยู่ที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง (focus)
และสามารถคิดได้อย่างมีอิสระ Soros จะไม่ยอมให้มีใครรบกวนเลย
เวลาที่เขาทำการซื้อขายอยู่
แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงเพราะมีข่าวใหญ่บางอย่างเข้ามากระทบ
เขาก็ยังไม่ยอมให้ใครคนไหนเข้าพบเพื่อมาสรุปข้อมูลและวิเคราะห์ผลกระทบให้ฟัง
จนกว่าเขาจะได้ “จัดการ”
กับการลงทุนของเขาให้เรียบร้อยเสียก่อน

6. มีความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
ในการลงทุน นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
จำเป็นต้องเห็นภาพรวมของสิ่งต่างๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจส่วนรวมของไทย เศรษฐกิจโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจต่างๆ
รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่สำคัญต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน
ราคาน้ำมันด้วย มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถคว้าโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้
หรือไม่สามารถจัดการกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อลดทอนความเสียหายได้

7. มีฉันทะในสิ่งที่ทำ (Passion)
นักลงทุนระดับปรมาจารย์ทุกคน “รัก”
อาชีพการลงทุน
พวกเขามีความสุขกับการได้ทำในสิ่งที่ทำมากกว่าจะคิดเรื่องของผลตอบแทนที่ได้ Warren
Buffet เคยพูดว่าตัวเขาเอง...Enjoy the process rather than the proceeds…
รู้สึกสนุกกับการทำให้ “ได้ผล” มากกว่าจะคำนึงถึง
“ผลได้”

8. มีความยืดหยุ่น (Flexibility)
ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนนั้น
ต้องเปิดใจพร้อมที่จะยอมรับข้อมูลใหม่ๆ และโลกทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พวกเขารู้ดีว่าการที่ยึดติดกับความคิด/ความเชื่อบางอย่างตายตัวเกินไปอาจเป็นการโยนทิ้งโอกาสดีๆ
ที่ผ่านเข้ามา (“ตกเครื่องบิน”) หรือทำให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงต่อการลงทุน
(“เครื่อง บินตก”) ก็ได้ ประเด็นก็คือ
นักลงทุนที่ประสบกับความสำเร็จจะต้องกล้าที่จะยอมรับความจริง
ถ้าหากพบว่ามีการตัดสินใจผิดพลาด ก็ต้องยอม “ตัดขาดทุน” (cut losses) เสียแต่เนิ่นๆ
แต่เมื่อตัดสินใจถูกต้องแล้ว ก็ต้องรู้จักปล่อยให้ “กำไรเพิ่มพูน” (run profits)
ด้วยการไม่รีบขายหุ้นนั้นทิ้งไปด้วย

ขอบคุณ edu.tsi-thailand.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น